ยามาฮ่าฟินน์ ใช้น้ำมันถังเดียวเที่ยวบางเสร่ ขี่แก๊ง “ฟินน์” เที่ยวแบบชิลๆ @บางเสร่

สำหรับทริปนี้การเดินทาง จากนิตยสาร Cycle Road, 2 Fast, The RUN, Inside Motor Racing, Maximum Speed และ Stop Bike, GT-R MAXx, Super Bike ขบวนความฟินน์เริ่มต้นกันที่ Yamaha YRA จากนั้นจึงเคลื่อนขบวนความฟินน์ลัดเลาะการการจราจรที่แออัดในช่วงเช้า เจ้ายามาฮ่า ฟินน์ ออกทางไปตามถนนบานตราด

หลังจากออกเดินทางมาได้สักพัก การจราจรเริ่มเบาบางลง เราเริ่มใช้ความเร็วมากขึ้น ถือเป็นการวอร์มเครื่องกันก่อน ซึ่งกำลังเครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซี. ของยามาฮ่า ฟินน์ สามารถพาพวกเราลัดเลาะไปได้อย่างสบายๆ เราใช้เวลาไม่นานนัก เราก็เริ่มเข้าเขตจังหวัด ชลบุรี

เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี แก๊ง “ฟินน์” เริ่มหิวข้าวกันแล้ว โดยระหว่างทางก่อนถึงอ่างศิลาจึงแวะร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลชื่อดัง “ลำลำลับแล” ที่จัดเอาของทะเลสดๆ อย่างปลาหมึก กุ้ง ขนาดใหญ่เต็มคำมาปรุงให้เข้ากับเมนูก๋วยเตี๋ยวจนมีลูกค้าประจำแน่นร้านในช่วงเที่ยงของทุกวัน

หลังจากอิ่มท้องแล้ว แก๊ง “ฟินน์” จึงออกเดินทางขับขี่เที่ยวบนถนนเลียบชายทะเลอีกหนึ่งสถานที่แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่จะต้องผ่านมาชมวิวเส้นนี้ให้ได้ ก่อนที่จะเลี้ยวแวะเข้าเติมคาเฟอีนที่ร้าน “Café on สะพาน” ร้านเดียวบนถนนสายนี้ที่มีจุดชมวิวที่สวยงามและยังมีระเบียงตาข่ายให้ลงไปนอนเล่นบนความสูงห่างจากน้ำทะเลไม่มากนัก บอกได้เลยว่าวิวที่นี่สวยจริงๆ

หลังจากนั้นจึงออกเดินทางไปเที่ยวขี่รถเลาะชายหาดบางแสนหาดทรายและทะเลที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน การขับขี่รถเที่ยวแบบไม่เร่งรีบก็ดีไปอีกอย่างเพราะทำให้เวลามองวิวนั้นสามารถมองได้อย่างเต็มตา ยามาฮ่าฟินน์ออกแบบช่องคอนโซลหน้าทางด้านซ้ายมือให้สามารถใส่ขวดน้ำหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการหยิบใช้ได้ทันทีอย่างโทรศัพท์สมาร์ทโฟนให้เวลาที่ต้องการหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปกับวิวทะเลก็ไม่ต้องเสียเวลาไปล้วงหาจากกระเป๋ากางเกง

และการขี่รถเที่ยวแบบนี้จะต้องหยุดรถบ่อยทำให้ต้องใช้เบรกอยู่เป็นประจำตลอดทางที่มีจุดชมวิวและถ่ายรูปและข้อดีของยามาฮ่าฟินน์ก็คือระบบเบรก UBS เมื่อมีการเบรกเท้าที่ล้อหลังระบบจะสั่งให้ล้อหน้าเบรกด้วยโดยอัตโนมัติเพื่อให้ประสิทธิภาพการหยุดรถนั้นทำได้ดีที่สุด

เพราะในบางครั้งผู้ขับขี่อาจมีความเคยชินกับการใช้เบรกที่ล้อหลังมากกว่าล้อหน้าและมีการทดสอบแล้วว่าประสิทธิภาพการหยุดรถที่ดีที่สุดนั้นคือจะต้องทำการเบรกทั้งสองล้อ

รถยามาฮ่าฟินน์จึงมีการติดตั้งระบบ UBS มาให้เพื่อความปลอดภัยไม่ว่าสมาชิกในบ้านคนไหนจะนำรถไปใช้งานก็สามารถเบรกหยุดรถได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

หลังจากเลียบชายทะเลหาดบางแสนจนสุดทางแล้วจึงวกออกมายังถนนสุขุมวิทแล้วมุ่งหน้าไปต่อยังเมืองพัทยา ซึ่งแม้ว่าช่วงนี้จะมีแต่นักท่องเที่ยวในประเทศ แต่ที่เมืองพัทยานี้ก็ยังมีคนไทยออกมาเที่ยวในวันหยุดกันอย่างปกติภายใต้การมาตรการป้องกันต่างๆ ที่ทุกคนรู้กันดีและปฎิบัติตามอย่างไม่ละเลย

การเดินทางมาถึงตำบลบางเสร่ในช่วงบ่ายแก่ๆ บรรยากาศกำลังดีแสงแดดเริ่มอ่อนกำลัง พวกเราทั้งหมดขี่รถมาถึงที่พัก “ต้นน้ำรีสอร์ท” เข้าเช็คอินท์จองห้องเลือกเตียงนอนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เมื่อมาถึงทะเลมันก็ต้องให้ถึงทะเล” อย่างที่เขาว่าไว้ไม่พูดพล่ามทำเพลงเปลี่ยนเสื้อผ้ากระโจนลงน้ำทะเลที่ใสปิ้งจนเห็นฝูงลูกปลาแหวกว่ายเป็นกลุ่มใหญ่ มันช่างเป็นวันพักผ่อนที่เพอร์เฟ็คจริงๆ

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ยามาฮ่าฟินน์เป็นรถที่ยอดประหยัดน้ำมัน ด้วยระยะทาง 140 กิโลเมตร ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปครึ่งถังหรือประมาณ 2 ลิตรคำนวนแล้วเป็นค่าน้ำมันที่ประมาณ 50 บาทเท่านั้น

อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวสวยงามสำหรับคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบการออกแบบอย่างลงตัว ทำให้ ยามาฮ่า ฟินน์ เป็นรถที่มีความเอนกประสงค์ไปใช้งานในชีวิตประจำวันและยังเหมาะที่จะใช้ขับขี่ท่องเที่ยวในวันพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยมช่วยประหยัดค่าเดินทางลดภาระค่าใช้จ่ายสบายกระเป๋า…ยามาฮ่าฟินน์ ฟิน์กว่าประหยัดกว่า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *