All New AEROX สปอร์ตออโตเมติกสายพันธ์ R-SERIES พร้อมกับเทคโนโลยี Y-Connect

ยามาฮ่าเปิดตัวAll New AEROX สปอร์ตออโตเมติกสายที่มีระบบอัจฉริยะเชื่อมต่อ Y-Connect พร้อมแจ้งสถานะระบบต่างๆ และแจ้งเตือนข้อมูลที่สำคัญให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดทั้งสายเรียกเข้าและข้อความจากแอพต่างๆ

ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มกับจัดการทดสอบ All New AEROX ที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของยามาฮ่า โดยมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ด้วยการถ่ายทอดความเป็นสปอร์ตจากสายพันธุ์ตระกูลอาร์ซีรีย์ลงสู่ All New AEROX

เรามาดูที่ภายนอกมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้สปอร์ตยิ่งขึ้นกว่าเดิม โคมไฟหน้าเปลี่ยนใหม่พร้อมปรับแผงรีเฟกเตอร์ทำให้มีการกระจายลำแสงสว่างไปทั่วบริเวณด้านหน้ารถสว่างชัดยิ่งขึ้นกว่าเดิมพร้อมเพิ่มด้วยไฟเดย์ไทส์ไลท์เพิ่มความโดดเด่นในตอนกลางวัน เครื่องยนต์แบบใหม่พัฒนาให้แรงขึ้นกว่าเดิมด้วยขุมพลัง 155 ซีซีพร้อมระบบวาล์ว VVA เพิ่มกำลังอัดเป็น 11.6 ต่อ 1 ให้กำลังสูงสุดที่ 8,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดที่ 6,500 รอบต่อนาที ทั้งนี้เพิ่มความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงเป็น 5.5 ลิตร ช่วยให้การเดินทางไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิม ส่วนทางด้านโช้คหลังเป็นโช้คแบบซัพแทงค์ติดตั้งมาให้เพื่อช่วยให้การซัพแรงกระแทกมีความมั่นคงที่ดียิ่งขึ้นเมื่อต้องใช้ความเร็วสูงขณะขับขี่ ส่วนทางด้านแผงคอนั้นมีการปรับระยะเทรลใหม่เพื่อลดอาการหน้าไว ผู้ขับขี่จะมีการควบคุมทิศทางได้มั่นคงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การทดสอบรูปแบบใหม่ของยามาฮ่าในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบกึ่งแข่งขัน ซึ่งสถานีทดสอบทั้งหมด 4 สถานีคือ
สถานีทดสอบที่1 คือ Brak Test การทดสอบจะต้องขับขี่ด้วยความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อให้วาล์ว VVA ทำงาน ในระยะทาง 70 เมตร เพื่อให้ใช้ประสิทธิภาพการทำงานของ ABS

การทดสอบ 2 บาลานซ์โดยจะต้องควบคุม All New AEROX ผ่านไปบนทางแคบโดยจะต้องใช้ความเร็วต่ำที่สุดเพื่อควบคุมบาลานซ์ของตัวรถ

ส่วนสถานีที่ 3 คือการขับขี่แบบสลาลอม ซึ่งต้องใช้ความสัมพันธ์กันระหว่างการเร่งเครื่องและการเลี้ยวทำให้ได้รับรู้ถึงการปรับระยะเทรลใหม่ช่วยให้การหักเลี้ยวได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจในความสามารถควบคุมทิศทางได้ดั่งใจ

สถานีสุดท้ายคือการขับขี่แบบ Trykhana ที่จะต้องขับขี่ไปตามเส้นทางโดยมีลักษณะเป็นตัว X ทีจะต้องใช้สมรรถนะของรถไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งเพื่อออกจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งพร้อมกับการใช้เบรกและบาลานซ์เพื่อวนรอบไปสู่จุดต่อไป

การทดสอบเชิงแข่งขันผ่านไปทั้งหมด 4 สถานี ช่วยให้ไดสัมผัสเทคโนโลยีได้ครบๆ ทั้งการแจ้งเตือบข้อความภารกิจที่แสดงสัญลักษณ์ขึ้นโชว์ที่หน้าจอเรือนไมล์ทำให้ไม่พลาดการแข่งขัน เพราะเวลาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนทางด้านการควบคุมรถนั้นรู้สึกได้ถึงความมั่นใจมากยิ่งกว่าเดิมเมื่อต้องหักเลี้ยวให้ระยะกระชั้นชิดผสมกับการปรับค่าสปริงโช้คใหม่จึงทำให้ผ่านการทดสอบในจุดต่างๆ ไปได้อย่างปลอดภัยและมีความสนุกกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *