เอช เซม มอเตอร์ จัดทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า H SEM MOBILA G ล่าสุด แบบถึงเนื้อถึงตัว! เปิดประสบการณ์ใหม่กับการขับขี่ไร้เสียงบนถนนแบบใช้งานจริงไม่อิงทฤษฎี
หลังจากที่ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปถึง 3 รุ่น รวด โดยมีการออกแบบภายใต้แนวคิด “ก้าวล้ำทุกสไตล์ในแบบคุณ” หรือ “Unique On Your Way”
มาในครั้งนี้ทาง H SEM จึงจัดให้มีการทดสอบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น H SEM MOBILA G พร้อมทั้งเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบกันอย่างคับคั่ง ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทุกรุ่นจาก H SEM ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานในประเทศไทยและสามารถจดทะเบียนกับกรมขนส่ง
เริ่มจากนักทดสอบได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยพร้อมกับบรีฟเส้นทางในการขับขี่ ทางผู้บริหาร H SEM ได้แนะนำเครื่องชาร์ตแบตตอรี่ที่จะเตรียมไปวางให้ผู้ใช้สามารถนำมาเปลี่ยนแบตฯได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งตู้นี้ในอนาคตจะนำมาวางตามจุดต่างๆให้มากที่สุด
หลังจากออกสตาร์ทจากสำนักงานใหญ่ เอช เซม มอเตอร์ ไปตามเส้นทางรอง จากได้สัมผัสแรก เจ้า H SEM MOBILA G เราพบว่านอกจากสมรรถนะที่ของเครื่องยนต์ที่มีกำลังที่ปราดเปรียวแล้ว ความเงียบของรถยังเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่เหมาะกับการขับขี่ในชุมชน ทำให้นอกจากไม่มีมลพิษทางอากาศแล้ว ยังไม่มีมลพิษทางเสียงอีกด้วย
เราใช้วลาไม่นานนักก็เข้าเขตจังหวัดอ่างทอง เมื่อมองมาที่เรือนไมล์ที่เป็นแบบดิจิตอลบอกสถานะการทำงานต่างๆที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นระยะทางที่วิ่งได้ ปริมาณแบตตอรี่ ความเร็วฯลฯ เราขับขี่ในเส้นทางที่เป็นเส้นรอง ถนนยังมีการชำรุดและไม่เรียบเป็นช่วงๆแล้ว MOBILA G ยังแสดงอาการของโช๊คหลังที่นิ่มนวลแม้ว่าจะตกหลุมตามสภาพถนน
หลังจากนั้นก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนแบตฯ ซึ่ง MOBILA G เป็นรุ่นที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนแบบเกียร์มอเตอร์ DC72V 3000W ปรับความเร็วแบบเกียร์โลว์-ไฮ (Low – High)ทำให้มีสีสันและความมันส์เพิ่มขึ้น ความเร็วสูงสุดได้อยู่ราวๆ 79 กม./ชม. แถมมีช่องใส่แบตเตอรี่ได้ถึง 2 ลูก การเปลี่ยนแบตฯสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่เปิดใต้เบาะแล้วถอดขั้วปลั๊กไปใส่อีกลูกแค่นี้ก็สามารถเดินทางต่อไปได้อีก
เมื่อเราได้สวิตท์แบตฯเรียบร้อยแล้ว เราใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงวัดแรก “ วัดไชโยวรวิหาร ” สื่อมวลชนได้เดินทางเข้าสักการะพระมหาพุทธพิมพ์ วัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดอ่างทอง หลังจากนั้นเราเดินทางไปต่อกันที่ วัดขุนอินทประมูล เพื่อไปสักการะพระศรีเมืองทอง ที่เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ
ในถนนเส้นทางนี้เป็นถนนที่แคบแต่เจ้า MOBILA G ถูกออกแบบด้วยโครงสร้างเหล็ก ขับขี่ง่าย มั่นใจในการเข้าโค้งแบบเนียนๆด้วยล้อแม็กอลูมิเนียมอัลลอย ส่วนไฟนั้น ติดตั้งเป็นแบบไฟ LED รอบคันสามารถมองเห็นได้ในระยะทางไกล หลังจากที่เราสักการะเป็นที่เรียบร้อย ขบวน MOBILA G ได้ทำการเปลี่ยนแบตตอรี่ สามารถยกตัวแบตเตอรี่ออกมาชาร์จไฟด้านนอกได้ และแบตเตอรี่ใช้เวลาชาร์จเต็มภายใน 4 ชั่วโมง คำนวณแล้วค่าไฟต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อยู่ที่ 7 บาท เท่านั้น!
เราเดินทางไปต่อที่วัดสังกระต่าย ที่วัดแห่งนี้มีความสวยงามเป็นโบสถ์เก่าใต้ต้นโพธิ์ ที่โบส์แห่งนี้มีความศักสิทธิ์ตรงที่ช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวเราไปได้ หลังจากนั้นเราจึงเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน THE LAO CAFÉ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดม่วงมากนัก เรารับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับพูดคุยกับผู้บริหารอย่างเป็นกันเอง
อิ่มท้อง…เครื่องสตาร์ท เรียกว่ายังไม่ทันไร เราก็มาถึงวัดม่วง ซึ่งมีพระใหญ่ที่เห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกด้าน เรียกว่าเป็นพระที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นเราจึงเดินทางต่อไปที่วัดสุดท้ายที่อำเภอป่าโมก …วัดป่าโมกเป็นวัดโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีตำนานเล่าขานกันอีกมากมาย
เราเดินทางออกมาจากวัดป่าโมก เมื่อเข้าสู่ถนนใหญ่ทีมสื่อมวลชนกดคันเร่งแบบเต็มพิกัด เพื่อทดสอบความเร็วสูงสุดที่เจ้ารถ MOBILA G สามารถให้ได้ด้วยตัวเลขที่ออกมาเป็น 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าให้กำลังออกมาทันใจมากทีเดียว หลังจากเราใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงสำนักงานใหญ่ H SEM เรียกว่าสนุกมากกับทริปนี้ สำหรับเจ้า MOBILA G ถือเป็นตัวเลือกสำหรับไบค์เกอร์ที่ต้องการประหยัดสตางค์ในกระเป๋าเป็นอย่างยิ่ง
